วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

ทดสอบสอบปลายภาค


1.แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ให้นักศึกษาอ่านบทความอย่างน้อย 3 บทความหรือมากกว่า   ใช้ Keywordว่า "แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา"ให้เขียนเชื่อมโยง วิเคราะห์ลงในบล็อกของนักเรียน
-สรุปได้ว่าความเป็นมาในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดศึกษาไทยของลูกหลานมีการศึกษาในยุคใหม่กระบวนการเรียนรู้มีความสำคัญมกเป็นผู้ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ไปพร้อมกับผู้เรียนคนรุ่นใหม่ควรมีการพัฒนาให้ผู้เรียนได้มีทักษะการอ่านเขียนเป็นในยุคดจิติลต้องเน้นกระบวนการเรียนรู้และใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีเพื่อเกิดการแสวงหาความรู้เพื่อให้เด็กมีการสื่อสาร ด้วยการใช้เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของเด็กเพื่อสร้างความประทับใจในการเรียนรู้ที่สำคัญในการสร้างทักษะการเรียนรู้การทำงานร่วมกับมีตัวเชื่อมโยงกิจกรรมมีระดับการเรียนรู้ต่อเนื่องบางครั้งต้องอาศัยการจำลองสถานการณ์หรือการทดลองเหมือนจริงเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมีการเรียนรู้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครูในดารสร้างทักษะการเรียนรู้ให้เด็กๆ
อ้างอิง:แท็บแล็ต “Teblet” เพื่อการศึกษาผู้เขียนได้อ่านงานเขียนของคุณสิรีนาฏ  ทาบังกาฬ จากสถานบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
              แท็บแล็ตเพื่อการศึกษา วิวัฒนาการของเด็กวัยเรียน
-สรุปได้ว่า การเรียนการศึกษาของเด็กในวัยเรียนควรมีการดูแลให้มีวิฒนาการที่ไม่ให้หมกมุ่นอยู่กับหน้าจอสี่เหลี่ยมและยังพัฒนาไปตามของวัยเด็ก เช่นยุคนี้มีการใช้อุปกรณ์ในการสื่อสารได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บแล็ตและเทคโนโลยีทันสมัยที่มีอิทธิพลต่อการสื่อสารให้กับเด็กวัยเรียนที่มีความสนใจในการอ่านและเขียนมีการใช้ทักษะการสื่อสารให้พูดคุยกับผู้ใหญ่น้อยลง เป็นต้นเด็กควรอยู่หน้าจอสี่เหลี่ยมไม่เกิน1ชั่วโมงต่อวัน
อ้างอิง:mthai.com
แท็บแล็ตเพื่อการศึกษา :โอกาสและความท้าทาย
  -นโยบายการศึกษาภาครัฐโดยเฉพาะด้านการศึกษาของรัฐบาลปัจจุบันที่ได้แถลงไว้เมื่อวันที่26สิงหาคม 2554 เกี่ยวกับนโยบายด้านการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาให้ทัดเทียมกับนาๆชาติ ต่อรัฐสภาว่าเป็นนโยบายที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการยกระดับคุณภาพการศึกษาและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้มีระบบการเรียนแบบอิเล็กทรอนิคส์แห่งชาติเป็นกลไกในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของการเรียนรู้ โดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีพ พัฒนาเครือข่ายและพัฒนาระบบไซเบอร์โฮมที่สามารถส่งความรู้มายังผู้เรียนด้วยระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยการจัดให้มีการแจกแท็บแล็ตเพื่อการศึกษาที่เป็นเครื่องมือด้านสื่อเทคโนโลยีที่สำคัญและมีอิทธิพลค่อนข้างมากต่อการปรับใช้ในการสร้างมิติแห่งการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาจัดการศึกษาของไทยปัจจุบัน
2.อ่านบทความเรื่องสมาคมอาเซียนอ่านบทความอย่างน้อย 3บทความหรือมากกว่าใช้ Keywordว่าสมาคมอาเซียนให้เขียนวิเคราะห์ประเทศไทยประเทศเพื่อนบ้านการเตรียมตัวเป็นครูนักเรียนนักศึกษาเพื่อไปสู่อาเซียนได้อย่างไร 
 - ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันความร่วมมือของอาเซียนให้มีความคืบหน้ามาโดยตลอด  โดยสร้างขึ้นจากสภาพความตึงเครียด  อันเป็นผลมาจากสงครามเย็น ซึ่งมีความขัดแย้งด้านอุดมการณ์ ระหว่างประเทศที่สนับสนุนอุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตยกับประเทศที่ยึดมั่นในอุดมการณ์สังคมนิยมคอมมิวนิสต์  โดยมีรัฐมนตรีของไทย  เดินทางไปเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้  เพราะแต่ละประเทศอาเซียนได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาค ลดความหวาดระแวง และช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ  และที่สำคัญไทยได้เป็นแกนนำร่วมกับอินโดนีเซียและประเทศสมาชิกอาเซียน  ดั้งเดิมในการแก้ไขปัญหากัมพูชา รวมทั้งความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยอินโดจีนจนประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และช่วยเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง เราจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอย่างมาก  ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประเทศของเราก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ  สังคม  การเมือง  การศึกษา ตลอดจนการใช้ภาษาในการสื่อสาร  จะเห็นได้ว่าภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเข้าสู้ประชาคมอาเซียนเพราะการจัดตั้งประชาคมอาเซียนมีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 10 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ครู นักเรียนนักศึกตลอดจนประชาชนทั่วไปก็จะต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอนาคตที่จะตามมา  ในแต่ละประเทศก็ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในประเทศในเรื่องประชาคมอาเซียนให้เกิดความเข้าใจ จะต้องมีแผนงานในการเตรียมความพร้อมของประเทศเพื่อให้เข้าสู้ประชาคมอาเซียนด้วยความภาคภูมิใจ และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาด้วยความมั่นใจ
อ้างอิง:ดร.ชูศักดิ์  ประเสริฐ: ไมตรี  สุนทรวรรณ: กฤตติยา คงนุกูล
3.อ่านบทความครูกับภาวะผู้นำของ ผศ.ดร.สมาน คำฟูแสง ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครู ให้ยกตัวอย่าง ประกอบ แสดงความคิดเห็น บทความ ผศ.ดร.สมาน คำฟูแสง
 -การที่ครูมีความรู้ความสามารถและแสดงออกให้เห็นว่าเป็นผู้มีสมรรถนะด้านการจัดการเรียนการสอ เป็นที่ยอมรับของเพื่อน ครู นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองจนทำกระบวนการให้เกิดพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมสามารถยอมรับกับสถานการณ์และสิ่งรอบตัวและสามารถแก้ปัญหาเป็น
4.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและประเมินวิชานี้ว่า การเรียนรู้โดยใช้บล็อก นักศึกษามีวิธีการเรียนรู้อย่างไร แสดงความคิดเห็นหากจะเรียนรู้โดยใช้บล็อก ต่อไปข้างหน้าโอกาสจะเป็นอย่างไร ควรที่จะให้คะแนนวิชานี้อย่างไร และหานักเรียนต้องการจะได้เกรดในวิชานี้ นักเรียนจะต้องพิจารณาว่า
    4.1 ตนเองมีความพยายามมากน้อยเพียงใด
    4.2 เข้าเรียนทุกครั้งไม่เคยขาดเรียน
    4.3 ทำงานส่งผ่านบล็อกตามกำหนดทุกครั้งที่อาจารย์สั่งงาน
    4.4 ทำงานบทบล็อกด้วยความคิดของตนเองไม่ใช้ความคิดคนอื่น
    4.5.สิ่งที่นักเรียนตอบมานั้นเป็นความสัตย์จริง เขียนอธิบายลงในบล็อก
    4.6.อาจารย์จะพิจารณาจากผลงานและความตั้งใจ ความสื่อสัตย์ตนเอง และบอกเกรดว่าควรจะได้เท่าไร 
                -ในการนำบล็อกมาเป็นสื่อในการเรียนการสอนนั้นมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยให้เกิดความสะดวกสบายทั้งครูผู้สอนหรือตัวของนักเรียนเอง ซึ่งคุณครูสามารถสั่งการบ้าน ให้ใบความรู้หรือให้นักเรียนสอบผ่านบล็อกได้เลย และนักเรียนก็สามารถอ่านใบความรู้ ส่งการบ้านและทำข้อสอบได้อย่างสะดวกมากกว่าการที่จะต้องเขียนส่งการเรียนรู้โดยใช้บล็อกดิฉันคิดว่ามันเป็นการเรียนรู้ที่ดีและมีประสิทธิภาพเป็นการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถหาวิชาความรู้ได้อย่างทั่วถึงและกว้างขวางสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและความรู้นั้นจะคงทนถาวรไม่มีการเสียหาย และที่สำคัญการเรียนรู้โดยใช้บล็อกเป็นการประหยัดกระดาษและไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติ การให้คะแนนในวิชานี้ก็คือประเมินจากการเข้าเรียนและการส่งงานที่ตรงต่อเวลา และใช้ความคิดของตนเอง ไม่ลอก และมีความคิดสร้างสรรค์ มีความตั้งใจสูงค่ะ ส่วนในเรื่องของเกรดดิฉันอยากได้เกรด A ในวิชานี้ค่ะเพราะฉันมีความพยายามในการเรียนวิชานี้เป็นอย่างมากค่ะ มีความตั้งใจสูง แต่ฉันขาดเรียน 2ครั้งเพราะมีความจำเป็นและฉันทำงานส่งผ่านบล็อกตามกำหนดทุกครั้งที่อาจารย์สั่ง ทำงานด้วยความคิดของตัวเอง ไม่ลอกเลียนของเพื่อนๆๆร่วม และทุกสิ่งที่ตอบลงมาในบล็อกล้วนแล้วเป็นความสัตย์จริงค่ะ




วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

กจิกรรมที่7


ให้นักศึกษาศึกษาดูโทรทัศน์ครู ให้เลือกเรื่องที่นักศึกษาสนใจมาคนละ 1 เรื่อง และ เขียนลงในบล็อกกิจกรรมของนักเรียน ดังนี้
1.สอนเรื่องอะไร ผู้สอนชื่อ ระดับชั้นที่สอน
-สอนเรื่อง สอนสังคมแบบ โยนิโสมนสิกา
- ผู้สอน อ.สิริมา กลิ่นกุหลาบ
-ระดับชั้นประถมศึกษา ป.2
2.นื้อหาที่ใช้สอนมีอะไรบ้าง
การสอนแบบโยนิโสมนสิการ เป็นการสอนที่ทำให้เด็กได้เรียนรู้ถึงคุณ โทษ และทางออกของปัญหา และทำให้เด็กกล้าแสดงความคิดเห็นโดยรูปแบบการสอนของครูสิริมา กลิ่นกุหลาบ สามารถแบ่งเป็นขั้นตอนได้ดีมาก
 -การสร้างศรัทธาโดยการร้องเพลงดอกไม้บาน
- เมื่อสมองเด็กเปิดรับ ก็จะมีความพร้อมในการเรียน
-ให้เด็กทำดอกไม้แห่งความดี เด็กเกิดความภูมิใจที่ทำความดีและได้รับคำชมเชยจากเพื่อนร่วมชั้น
-เด็กรู้จักคิดด้านบวกและลบ โดยการสร้างสถานการณ์ให้เด็กรู้จักคิดเพิ่มมากขึ้นและรู้จักวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ คำตอบที่หลากหลายทำให้เด็กรู้จักตัดสินใจเลือกทางออกที่เหมาะสม
3. จัดกิจกรรมการสอนด้าน (สติปัญญา=IQ, อารมณ์=EQ, คุณธรรมจริยธรรม=MQ)
ด้านสติปัญญา
-  คุณครูถามดอกไม้ของนักเรียนแล้วให้นักเรียนตอบคำถามจากความคิดของตนเองแล้วนำมาเขียนลงบนกระดาน
นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้เพื่อที่จะนำไปไปปรับใช้
ด้านอารมณ์
- นักเรียนกล้าที่จะเสนอความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้อื่น
นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในห้องเรียน
นักเรียนได้สอบถามหาความรู้
     นักเรียนกล้าที่จะนำเสนองานหน้าชั้นเรียน
ด้านคุณธรรมจริยธรรม
ทำให้เด็กได้ตระหนัก เกิดการเรียนรู้ กล้าแสดงออก แสดงความคิดเห็น ปลูกฝังด้านพระพุทธศาสนา หลักธรรมที่ปฏิบัติง่ายๆได้ หรือถ้าเด็กมีการบันทึกการทำความดีด้วยก็จะดีมาก มีการชื่นชม ยกย่อง ชมเชยของครูผู้สอน และเพื่อนด้วยจะเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง และพร้อมที่จะทำความดี ปฏิบัติตามหลักธรรมเองต้นได้อย่างดี  
4. บรรยากาศการจัดห้องเรียน เป็นอย่างไร
ให้นักเรียนทำดอกไม้แห่งความดี
 ติดพัดลมภายในห้องเรียนทำให้นักเรียนไม่ร้อนจึงมีความตั้งใจเรียนมากขึ้น
มีการติดข้อมูลความรู้ต่างๆไว้บริเวณห้องเพื่อให้นักเรียนไว้อ่านเพิ่มเติมความรู้
มีอุปกรณ์ช่วยสอน เช่น ภาพ กระดาน เครื่องเล่นวีดีโอ โทรทัศน์ ฯลฯ ทำให้เกิดการเรียนการสอนที่สะดวกขึ้น


วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

กิจกรรมทดสอบกลางภาคเรียน


บทความเรื่อง ความเป็นครูของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ของดร.สุเมธ ตันติเวชกุล วารสารทักษิณ
1.ข้อสรุปที่ได้จากบทความ
  • ความคิดของข้าพเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือพระองค์ท่านมีการสอนชาวบ้านและนำความรู้ที่พระองค์เรียนมาเพื่อถ่ายทอดให้แก่ชาวบ้านและเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านและยึดหลักการใช้เศรษฐกิจพอเพียงและพระองค์ท่านได้มีความรู้เรื่องต่างๆในด้านเศรษฐกิจพอเพียงให้มีการดำรงชีวิตตามแนวพระราชดำริและพระองค์ท่านได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาประยุกต์ใช้ให้เป็นไปตามแนวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว,การปลูกข้าว เป็นต้น
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
   • ถ้าหากว่าข้าพเจ้าได้เป็นครูข้าพเจ้าจะสอนวิชาสังคมศึกษาและศาสนาวัฒนธรรมเกี่ยวกับที่ข้าพเจ้าได้เรียนมาและนำความรู้ที่ได้ออกมาใช้ในการสอนเกี่ยวกับเรื่องศาสนาและวิชาที่ตนเองถนัดให้และข้าพเจ้าได้นำมาสอดแทรกเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมควบคู่กันไปหรือนำไปใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
   • เมื่อข้าพเจ้าได้เป็นครูจริงๆข้าพเจ้าจะนำความรู้ที่ได้ออกมาสอนในครั้งนี้จะใช้กระบวนการสื่อสารแบบเทคโนโลยีและวิธีการสาธิตให้ผู้เรียนได้ทำความเข้าใจก่อน ถ้าหากว่านักเรียนไม่เข้าใจข้าพเจ้าจะมีการสาธิตให้นักเรียนดู1-2ครั้งก่อนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมเป็นต้นโดยมีการยึดหลักความซื่อสัตย์, สุจริต, มีคุณธรรม, มีการทำความดีและเป็นครูที่ดีของเด็กนักเรียนมัธยม
บทความเรื่อง วิถีแห่ง สตีฟ   จ๊อบส์ THE STEVE JOBS WAY
1.ข้อสรุปจากบทความ สตีฟ จ๊อบส์
    • สตีฟ จ๊อบส์ เป็น คนที่มีความเฉลียวฉลาดและไม่ค่อยมีทักษะด้านวิชาการแต่เขามีความสนใจในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆและสามารถ สร้างความรู้หรือความคิดมาจากมันสมองและสองมือของเขาขึ้นมาช่วยในการศึกษาขอบเขตพื้นที่การศึกษา3 คณะคือคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา (กพท.)ช่วยในการส่งเสริมเขตลักษณะทั่วไป คณะกรรมการติดตามตรวจสอบประเมินผลและนิเทศการศึกษา (กตปน.) ดูแลงานวิชาการและการอนุรักษ์กรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษาเขตพื้นที่การศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)เขตพื้นที่การศึกษาด้านบริหารงานบุคคลส่วนใหญ่เด็กมักจบเรียนม.3และม.6เท่านั้น
2.ถ้าท่านเป็นครูผู้สอนท่านจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์กับการเรียนการสอนได้อย่างไร
    • ข้าพเจ้าจะนำความรู้ทั้งหมดนำไปใช่ในการถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์โดยใช้ทักษะของข้าพเจ้าที่มีอยู่ให้เด็กนักเรียนได้ฟังและมีการทำความเข้ามากขึ้นที่ข้าพเจ้าถนัดและนำมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนทำให้มีความสำคัญกับการพัฒนาผู้เรียน เช่น ครู, ผู้บริหารบุคลากรทางการศึกษาในสถานที่และนอกสถานที่ที่มีตามแนว พระราชดำริ ปรัชญาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นครูในอนาคตจะออกแบบการเรียนการสอนที่ที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้อย่างไร
   • ในอนาคตของข้าพเจ้าจะเป็นครูผู้สอนที่ดี โดยมีการใช้เครื่องที่ทันสมัยและมีการออกแบบโดยการมีสอนวิธีที่เข้าใจง่ายเด็กนักเรียนได้คิดตามในการเรียนและทำความเข้าใจได้ง่ายๆมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันที่ได้รับมี การเกิดเหตุการณ์ทำให้มีการเปิดโอกาสการทำกิจกรรมต่างในระหว่างเรียนและปลูกฝั่งให้นักเรียนได้เก็บไปคิดให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน


วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

การจัดการบรรยายกาศในห้องเรียน



การจัดการบรรยากาศในชั้นเรียน
        การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสนใจใคร่รู้ใคร่เรียนให้แก่ผู้เรียนชั้นเรียนที่มีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นความเห็นอกเห็นใจและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกันย่อมเป็นแรงจูงใจภายนอกที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรักการเรียนรักการอยู่ร่วมกันในชั้นเรียนและช่วยปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมความประพฤติอันดีงามให้แก่นักเรียนนอกจากนี้การมีห้องเรียนที่มีบรรยากาศแจ่มใสสะอาดสว่างกว้างขวางพอเหมาะมีโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยมีความสะอาด เหล่านี้เป็นบรรยากาศที่นักเรียนต้องการ ทำให้นักเรียนมีความสุขที่ได้มาโรงเรียนและในการเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ถ้าครูผู้สอนสามารถสร้างความรู้สึกนี้ให้เกิดขึ้นต่อนักเรียนได้ ก็นับว่าครูได้ทำหน้าที่ในการพัฒนาเยาวชนของประเทศชาติให้เติบโตขึ้นอย่างสมบรูณ์ทั้งทางด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสังคม การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งมีมุมวิชาการส่งเสริมความรู้มีการตกแต่งห้องให้สดใสก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลทำให้ผู้เรียนพอใจมาโรงเรียนเข้าห้องเรียนและพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนครูจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจบรรยากาศหลักการจัดบรรยากาศในชั้นเรียนและการจัดการเรียนรู้อย่างมีความสุขเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีลักษณะตามที่หลักสูตรได้กำหนดไว้
1. ช่วยส่งเสริมให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างราบรื่น เช่น ห้องเรียนที่ไม่คับแคบจนเกินไป ทำให้นักเรียนเกิดความคล่องตัวในการทำกิจกรรม
2. ช่วยสร้างเสริมลักษณะนิสัยที่ดีงามและความมีระเบียบวินัยให้แก่ผู้เรียน เช่น ห้องเรียนที่สะอาด ที่จัดโต๊ะเก้าอี้ไว้เป็นระเบียบมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันนักเรียน
3. ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้เรียน เช่น มีแสงสว่างที่เหมาะสม มีที่นั่งไม่ใกล้กระดานดำมากเกินไป มีขนาดโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะสมกับวัย รูปร่างของนักเรียน
4. ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างความสนใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น เช่น การจัดมุมวิชาการต่าง ๆ การจัดป้ายนิเทศ การตกแต่งห้องเรียนด้วยผลงานของนักเรียน
5. ช่วยส่งเสริมการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เช่น การฝึกให้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อกันและการฝึกให้มีอัธยาศัยไมตรีในการอยู่ร่วมกัน
6. ช่วยสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนและการมาโรงเรียน เพราะในชั้นเรียนมีครูที่เข้าใจ

ครูมืออาชีพในอุดมคติ



ครูมืออาชีพในอุดมคติ
           ครูมืออาชีพในอุดมคติของข้าจะต้องเน้นการสอนให้มีคุณภาพ เพราะว่าคุณภาพการสอนของครูย่อมส่งผลดีต่อนักเรียน และเยาวชนของชาติ การประเมินคุณภาพของครูจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องประเมินจากตัวเด็กและเยาวชนของชาติ ดังคำกล่าวที่ว่า คุณภาพของเด็กสะท้อน คุณภาพของครูดังนั้นครูมืออาชีพควรมีและควรเป็นก็คือ ต้องเน้นคุณลักษณะพื้นฐานนั่นคือ ฉันทะ เมตตา และ กัลยาณมิตร ซึ่งถือว่าเป็นคุณภาพพื้นฐานที่สำคัญของครู และพัฒนาการสอนของครูซึ่งเป็นภารกิจหลักโดยเฉพาะการสอนอย่างมีคุณภาพ นั่นคือ ครูมืออาชีพ จึงต้องมีคุณธรรมโน้มนำ ทำการสอนอย่างมีคุณภาพ มีภาพลักษณ์ของความเป็นครูดี เพื่อพัฒนาศักดิ์ศรีของอาชีพครูสืบไปครูมืออาชีพต้องมีคุณภาพการสอน สิ่งที่ครูมืออาชีพควรตระหนักเป็นอย่างยิ่งก็คือ "คุณภาพการสอน"ซึ่งเป็นความสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกคน ครูมืออาชีพ จึงต้องมีความสามารถต่อไปนี้
1. สามารถประยุกต์ใช้ยุทธศาสตร์ และการจัดระบบ ได้อย่างเหมาะสมกับการเรียนรู้และความต้องการทางการศึกษาของผู้เรียน สภาพแวดล้อมของโรงเรียนและสาระการเรียนรู้ที่สอน
2. สามารถติดตามการเรียนรู้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล ใช้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อวางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนเป็นรายบุคคล เป็นกลุ่มและเป็นชั้น
3. ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างอิสระ ฝึกการใช้ภาษา คาดหวังให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบในการเรียนรู้
4. พัฒนาความสัมพันธ์เชิงจรรยาบรรณ บนพื้นฐานทักษะการสื่อสารที่ดีให้การยอมรับผู้เรียนทุกคน และคาดหวังจะได้รับการยอมรับจากผู้เรียน
5. มีความรู้ที่ทันสมัย และสนับสนุนข้อคิดเห็นที่มีต่อหลักสูตรอย่างกระตือรือร้น
6. เชื่อความสามารถในการเรียนของผู้เรียนทุกคน คาดหวังว่าผู้เรียนทุกคนเรียนรู้และส่งความคาดหวังนี้ไปยังแต่ละบุคคล โรงเรียนและชุมชน
7. กระตือรือร้นในการฝึกผู้เรียนเข้าสู่ประสบการณ์แห่งการเรียนรู้เรื่องที่ผู้เรียนเห็นว่ามีความสำคัญต่อชีวิตของตน
8. ช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างความเชื่อมโยง เข้าใจความสัมพันธ์ทั้งภายในและระหว่างสาระการเรียนรู้

กิจกรรมที่6







                                                                          

                                                              วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร


     วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ได้ทำขึ้นเพื่อนำเสนอในการขึ้นบัญชีเบื้องต้นการเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชน  พระบรมธาตุ พระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นโบราณสถาน พระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ผู้ที่นับถือในพุทธศาสนา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่กลางใจเมืองและยังมีสัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จักกันคือ พระบรมธาตุเจดีย์ คนชาวนครศรีธรรมราชมีการกราบไว้องค์พระธาตุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

กิจกรรมที่5


ประวัติครู



ชื่อ: สิริพร นามสกุล:กุ่ยกระโทก นามแฝง: (ครูอ้อย แซ่เฮ)
อาชีพ:ครู ตำแหน่ง:ครู คศ.3 สอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา
บ้านเลขที่ :256/44 บ้านพักรถไฟ กม.11 ถนนวิภาวดี อ.เมืองจตุจักรจ.กรุงเทพฯ
รหัสไปรษณีย์: 10900
ประวัติการศึกษา 
ครู สิริพร  กุ่ยกระโทก  (ครูอ้อย แซ่เฮ)   เกิด 7 มกราคม 2501   อายุ54 ปี  
ป.1-7 โรงเรียนสตรีวรนาถบางเขน
ม.ศ.5 แผนกศิลปภาษา  ร.ร.ศรีบุณยานนท์  นนทบุรี
คบ.เอกภาษาอังกฤษ   โทศิลปะ  วิทยาลัยครูพระนคร  บางเขน  กทม.
ศษ.ม.หลักสูตรและการสอน  มหาวิทยาลัยรามคำแหง  หัวหมาก  กทม.
ประวัติการทำงาน
ครูผู้สอน  ภาษาอังกฤษ  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ร.ร. พระยาประเสริฐสุนทราศรัย: หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 2544-ปัจจุบัน : หัวหน้าโครงการวิจัยโรงเรียน2548-ปัจจุบัน
ได้รับมอบหมายให้ดูแลปฏิบัติการเกี่ยวกับโรงเรียนมาตรฐานสากล 2551-ปัจจุบัน

ครูผู้ประสานงานศูนย์เครือข่ายภาษาอังกฤษ  ERIC NETWORK สพป.กทม.2
เกียรติประวัติ
-ครูดีเด่นการสอนภาษาอังกฤษ  ระดับกลุ่มโรงเรียน  2539 -2541
-ข้าราชการครูตัวอย่าง  ระดับ 6 -8  กระทรวงศึกษาธิการ  2544
-ครูผู้มีผลงานดีเด่น  เพื่อรับรางวัลคุรุสภา  ระดับเขตการศึกษา 2544
-เครื่องหมาย  เข็มคุรุสดุดี   สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 2545
-ครูตัวอย่างแห่งปี  วารสารสารคดีคนดีสร้างชาติ  2545
-ครูนักวิจัยยุคปฏิรูป  สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา  2546
-ครูดีในดวงใจ  ระดับสำนักงานเขตพื้นที่ กทม.เขต 2   2546
-ครูดีในดวงใจ ครั้งที่ 2 ระดับสำนักงานเขตพื้นที่ กทม.เขต 2  2554
-รางวัล  หนึ่งแสนครูดี  สำนักเลขาธิการคุรุสภา  กทม  2555
-ครูนักคิดประดิษฐ์สื่อฯ รางวัลชมเชย
-แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ป.4    2547

-ศึกษาและวิจัยการสอนภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์   2548
-ได้รับทุน สพฐ.ศึกษาดูงานการสอนภาษาอังกฤษที่สิงคโปร์   2548
-รางวัลสุดคะนึง ตุลาคม 2549 จาก สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้สู่สังคม
ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ 

-นำเสนอผลงานวิจัยด้านการสอนภาษาอังกฤษ 
ที่อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน  2552

-รางวัล " ครูเพื่อศิษย์ " สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้สู่สังคม
ประสบการณ์การทำงาน
-2523: ตำแหน่งอาจารย์ 1 ระดับ 3บรรจุเข้ารับราชการ ร.ร.วัดสโมสรนนทบุรี
-2525   โอนย้าย  ร.ร.บ้านสีมุม  นครราชสีมา
-2538   ย้ายร.ร.พระยาประเสริฐสุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) สพป.กทม.2
-2539   อาจารย์ 2 ระดับ 7 ร.ร.พระยาประเสริฐฯ
-2548   ครู คศ.3ร.ร.พระยาประเสริฐ ฯ
-2551-ปัจจุบัน    กำลังทำผลงานเพื่อเลื่อนวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ
ผลงานที่ข้าพเจ้าชอบของครู
 -ข้าพเจ้าชอบผลงานนักคิดประดิษฐ์สื่อในการเรียนการสอน
 -เทคนิคการสอนโต้ตอบทางสรีระ " พยัญชนะพิศวง "
 -“หนังสือภาพ " เป็นแบบเรียนการสอนภาษาอังกฤษ  ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1นักเรียนประยุกต์สิ่งที่ดีของครูมาใช้ในการพัฒนาตนเอง
-สามารถมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นแนวทางในการสอนในอนาคตได้และเป็นครูที่ดีที่นักเรียนรักและเป็นที่รักของผู้ปกครอง

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

กิจกรรมที่4

สรุปเรื่องการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ
    การทำงานเป็นทีมต้องใช้เวลาในการพัฒนาบุคคลและการพัฒนาทีมงานพอสมควรจึงจะเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพและเข้าใจวัตถุประสงค์และเป้าหมายชัดเจนและร่วมแก้ปัญหาสนับสนุนไว้วางใจ ยอมรับ และรับฟังกัน ร่วมมือกันใช้ความขัดแย้งในเชิงสร้างสรรค์ทบทวนการปฏิบัติงานและตื่นตัวตลอดเวลามีการพัฒนาตัวเองได้ดีรู้จักตัวเองและรู้จักผู้อื่นเข้าใจต่อเพื่อนร่วมงานและสามารถร่วมกลุ่มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดี
   ขั้นตอนการทำงานเป็นทีม
           -วิเคราะห์งาน
           -กำหนดเป้าหมายร่วมกัน
           -วางแผนการทำงาน
-กำหนดกิจกรรม
         -แบ่งงานให้สมาชิกของทีม
-ปฏิบัติจริงตามแผน
-ติดตามผลและนิเทศงาน
-ประเมินขั้นสุดท้าย
1.แนวคิดหลักการทำงานเป็นทีม เป็นอย่างไร
           -การยอมรับความแตกต่างของบุคคล
           -แรงจูงใจของมนุษย์
           -ธรรมชาติของมนุษย์
 2. นักศึกษาจะมีวิธีการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพทำอย่างไร ยกตัวอย่างประกอบ
      การที่จะทำงานทีมให้มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องรู้จักนิสัยตัวเองและรู้จักนิสัยผู้อื่นและสามารถทำงานร่วมกลุ่มกันได้เป็นอย่างดี และสมาชิกทุกคนในทีมต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและใจ ความคิด  เพื่อที่จะได้งานที่มีประสิทธิภาพและทุกคนในทีมจะต้องตระหนักว่างานที่เราทำนั้นจะสำเร็จนั้นเป็นผลงานที่เกิดจากการร่วมมือร่วมใจในการทำงานของทีมไม่ใช่ผลงานของคนใดคนหนึ่งที่จะต้องทำและต้องเข้าใจวัตถุประสงค์ของงานที่ทำเป็นอย่างดีเพื่อให้สมาชิกในกลุ่มทุกคนได้เข้าใจ

กิจกรรมที่3

1.การจัดการเรียนการสอน จัดชั้นเรียน เตรียมการสอน ในยุคศตวรรษที่21 กับยุคก่อนศตวรรษที่21
     ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนเตรียมการสอนในยุคศตวรรษที่ 21เป็นการเรียนรู้ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่เพราะปัจจุบันมีสื่อเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาจึงทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้นในการเรียนการสอนมากกว่าเมื่อก่อนและยังมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างมากมายซึ่งทุกคนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองด้วยความสามารถของตนเองและในยุคศตวรรษที่21การศึกษาเป็นกิจกรรมตลอดชีวิต ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ให้สอดคล้องกับลักษณะของแต่ละบุคคลได้ และสามารถเรียนรู้และตัดสินใจด้วยตนเองได้ว่าจะเรียนอะไร เรียนอย่างไร ในยุคศตวรรษที่21มนุษย์ทุกคนได้รับการการอบรมและมีความเจริญก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมที่ตนเป็นอยู่แล้วและผู้เรียนรู้สามารถใช้ความรู้ประยุกต์ในการแก้ปัญหาหรือนำไปใช้เพื่อพัฒนา ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและศึกษาความรู้และใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนก้าวทันสมัย
2.ครูผู้สอนจะต้องเตรียมตัวอย่างไรในอนาคตที่ท่านจะเป็นครูยุคต่อไปข้างหน้าให้สรุปตามแนวคิดของนักศึกษา
   ในการเตรียมตัวในการเป็นครูที่ดีนั้นครูผู้สอนจะต้องวางแผนเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะสอนและมองถึงความพร้อมของผู้เรียนในการเรียนรู้ครูผู้สอนจะต้องมีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยี เครื่องมือใหม่ ๆ ในการจัดการเรียนการสอน สามารถใช้เทคโนโลยีสร้างบทเรียนและเนื้อหาเพื่อนำมาใช้ในการประกอบการเรียนการสอน สามารถเลือกเนื้อหาที่มีความทันสมัยเพื่อที่จะได้พัฒนาการสอนให้ดี
      มาสโลว์เป็นผู้วางรากฐานจิตวิทยามนุษย์นิยม เขาได้พัฒนาทฤษฎีแรงจูงใจ ซึ่งมีอิทธิพลต่อระบบการศึกษาของอเมริกันมาสโลว์แบ่งความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ออกเป็น 5 ระดับ
              1. ความต้องการทางกายภาพ
2. ความต้องการความปลอดภัย
3. ความต้องการทางสังคม
4. ความต้องการยกย่องชื่อเสียง
5. ความต้องการที่จะรู้จักตนเองตามสภาพที่แท้จริงและความสำเร็จของชีวิ
           Frederick Herzberg   ทฤษฎี 2 ปัจจัย การทำงาน และทำให้เขาได้ผลสรุปว่าแรงจูงใจของมนุษย์จะประกอบด้วย 2 ปัจจัย
1.
ปัจจัยภายนอกหรือเรียกว่า Hygiene Factors
2.
ปัจจัยภายใน หรือ Motivation Factor
          Frederick W. Taylor   ทฤษฏีการจัดการตามหลักวิทยาศาสตร์เทย์เลอร์ ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการจัดการตามหลักวิทยาศาสตร์ ปรัชญาการบริหารของเทย์เลอร์ได้แก่
   1
ทำการศึกษางานด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์และพัฒนาวิธีการดีที่สุดสำหรับการทำงานแต่ละอย่าง
    2
ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ในการคัดเลือกและการฝึกอบรมพนักงานและมอบหมายความรับผิดชอบให้ทำงานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคน
   3
มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้บริหารและพนักงาน
   4.
แบ่งงานและความรับผิดชอบในงานเป็นส่วนต่างๆ
   Henry L. Gantt    ผู้พัฒนาการอธิบายแผนโดยใช้กราฟ (Gantt Chart)คุณ Gantt เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในด้านที่นำเอากราฟ "Gantt Chart" มาเป็นสื่อในการอธิบายแผน การวางแผน การจัดการ และการควบคุมองค์กรที่มีความสลับซับซ้อน เพื่อให้ผู้รับฟังเกิดมิติในการรับรู้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วเขายังได้คิดวิธีจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานแบบใหม่ โดยใช้วิธีให้สิ่งจูงใจ
สรุปบริหารการศึกษา
บทที่ 1 มโนทัศน์เกี่ยวกับการบริหารการศึกษา
   การบริหาร  เริ่มใช้เมื่ออาณาจักรโรมันโดยกลุ่มนักรัฐศาสตร์ ซึ่งหมายถึง การจัดการหรือควบคุมกิจการต่างๆของรัฐ ส่วนการบริหารของรัฐหมายถึงการบริหารหรือการจัดการหรือดำเนินการในด้านรายละเอียดอย่างมีระเบียบโดยมีส่วนความสำคัญของการบริหารเป็นการดำรงอยู่รวมกันของมนุษย์ ทำให้การบริหารของหน่วยงานต่างๆได้ขยายงานอย่างกว้างขวาง
    การบริหารการศึกษา หมายถึงกิจกรรมต่างๆที่บุคคลหลายคนร่วมกันดำเนินการ เพื่อพัฒนาสมาชิกของสังคมในทุกๆด้าน
บทที่  2 วิวัฒนาการของการบริหารยุคต่างๆและการประยุกต์ใช้ในการบริหารการศึกษา
   วิวัฒนาการด้านรัฐกิจให้ความหมายการบริหารงานของรัฐหมายถึง การบริหารหรือจัดการหรือดำเนินการในด้านรายละเอียดอย่างมีแบบแผน ซึ่งเกี่ยวพันกับกฎหมายต่างๆของรัฐการใช้กฎหมายคือการบริหาร ส่วนวิวัฒนาการด้านธุรกิจในระบบมีการใช้วิธีฝึกจากการทำงานการจัดการ เป็นสาขาที่สำคัญ  นอกจากการใช้  “ระเบียบวินัยในการทำงาน การบริหารด้านธุรกิจมีการวางกฎเกณฑ์ ระเบียบปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และการรวมพลังของกลุ่ม  ดังนั้นปรัชญาของการบริหารธุรกิจจึงมุ่งแสวงหากำไรมากกว่าอย่างอื่น  เป็นเป้าหมายสำคัญในการแบ่งยุคของยุคของนักทฤษฎีการบริหารจะแบ่งได้ดังนี้ในยุคที่ 1 นักทฤษฎีการบริหารสมัยเดิม จะจัดการงานซึ่งได้ปฏิบัติ โดยอาศัยหลักควบคุมทางวินัย ใน ยุคที่ยุค  Human  Relation  Era  ทฤษฎีมนุษย์สัมพันธ์ความรู้ความชำนาญของผู้บริหาร  คือ  ผู้บริหารต้องมีความรู้  ความฉลาด  ส่วนการประยุกต์ใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์ในการบริหารการศึกษาเราสามารถนำหลักมนุษย์สัมพันธ์มาใช้ในการบริหารการศึกษา ส่วนในยุคที่ยุคการใช้ทฤษฎีทางการบริการ เป็นการจัดองค์การที่เป็นทางการจึงให้ทฤษฎีองค์การและยึดตามแนวมนุษย์สัมพันธ์ให้ความสำคัญกับตัวบุคคล  มุ่งด้านระบบขององค์การ  และสนใจจะพูดถึงพฤติกรรมศาสตร์
บทที่  3 งานบริหารการศึกษา
   การบริหารการศึกษาจะไม่แตกต่างกับการบริหารงานทั่วไป กล่าวคือสามารถนำหลักการของของการบริหารทั่วไปมาใช้กับการบริหารศึกษาได้ ผลเสียของการบริหารดังกล่าวสามารถมองเห็นได้ง่าย  เพราะจะมีลักษณะเผด็จการโดยการสั่งการสั่งจากเบื้องบน  มีคำสั่งให้ครูปฏิบัติและมีข้อห้ามในการกระทำ  และมีการควบคุมอย่างเข้มงวดและมีการลงโทษหากผู้ใดฝ่าฝืนและลงโทษตามกฎหมายกำหนดและมีเครือข่ายทางการศึกษาดังนี้
1.การผลิต หมายถึง กิจกรรมพิเศษหรืองานที่ทางองค์การได้จัดตั้งขึ้น
2.การประกันถึงการใช้ผลผลิตจากประชาชน หมายถึง กิจกรรมและผลผลิตของการดำเนินงาน
3.การเงินและการบัญชี หมายถึง การรับและการจ่ายเงินในการลงทุนในกิจกรรมขององค์การ
4.บุคลากร คือ   การกำหนดรอบและการดำเนินการของนโยบาย
5.การประสานงาน คือ เป็นกิจกรรมที่สำคัญของการบริหารการศึกษา
บทที่  4 กระบวนการทางการบริหารการศึกษา
   การบริหารการศึกษาเป็นหน้าที่หนึ่งของรัฐบาลในการบริหารประเทศ  เป็นการบริหารธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน  ที่เรียกว่าการบริหารการศึกษาสิ่งที่ทำให้การบริหารการศึกษา  การบริหารราชการ  และการบริหารธุรกิจจะแตกต่างกัน  และปรัชญาการศึกษา  ในการบริหารการศึกษาผู้บริหารนั้นจะต้องรู้เกี่ยวกับหลักการบริหาร  ที่สามารถนำไปเป็นหลักการจัดการศึกษาในโรงเรียน คือ 1.การจัดระบบสังคม 2.เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการศึกษา สำหรับหลักการจัดระบบการศึกษาไม่ว่าระดับชาติระดับท้องถิ่น ระดับโรงเรียน คือจะต้องรู้จักเด็กทุกคน โดยยึดหลักความเสมอภาคและเหมาะสมกับปรัชญา สภาพแวดล้อมของโรงเรียน และมีการส่งเสริมกิจกรรมให้สอดคล้องกับการปกครองในการบริหารงานในชั้นเรียนอย่างเท่าเทียมกันโดยกระบวนการบริหารการศึกษา เป็นความคิดรวบยอดและเป็นการจัดระบบการศึกษา ให้เป็นไปตามกระบวนการศึกษาของโรงเรียน
บทที่  5 องค์การและการจัดองค์การ
   องค์การตามแนวคิดหมายถึงส่วนประกอบที่เกิดจากระบบย่อยหลายระบบที่มีปฏิสัมพันธ์กันภายใต้สิ่งแวดล้อมหรือระบบใหญ่เราสามารถจำแนกองค์การที่อยู่รอบตัวเราออกเป็น 3ลักษณะใหญ่ๆคือ
1 องค์การทางสังคม
 2.องค์การทางราชการ
3. องค์การเอกชน
  แนวคิดในการจัดองค์การ
1.  แนวคิดในการจัดองค์การมาจากพื้นฐานการดำเนินงานขององค์การที่ภารกิจมาก
2.  แนวคิดในการจัดองค์การยังต้องคำนึงถึง “ผู้ปฏิบัติงาน
3.  แนวในการจัดการองค์การจะต้องกล่าวผู้บริหารควบคู่กันไป
     ความสำคัญของการจัดองค์การเป็นที่รวมของคนและเป็นที่รวมของงานต่างๆ  เพื่อให้พนักงานขององค์การ  ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ
 องค์ประกอบในการจัดองค์การ
1.  หน้าที่การงานเป็นภารกิจ
2.  การแบ่งงานกันทำ
3.  การรวมและการกระจายอำนาจในการจัดการองค์การ
บทที่ 6 การติดต่อสื่อสาร
   การติดต่อสื่อสารเป็นองค์ประกอบหนึ่งในกระบวนการบริหารกระบวนการติดต่อเกี่ยวข้องและประสานงานกันระหว่างบุคคลโดยอาศัยวิธีการถ่ายทอด และการรับข้อมูลเพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ การติดต่อสื่อสารจึงมีความสำคัญอย่างหนึ่งในการบริหารเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดความเข้าใจระหว่างกันและยังมีความสำคัญในการดำเนินการในองศ์การอย่างมากปัจจัยในการติดต่อสื่อสารมี 3 ตัวคือ สื่อช่องทางที่สื่อผ่านและ กระบวนการรูปแบบของการติดต่อสื่อสารการจัดเตรียมการสังเกตการณ์ของกระบวนการการจำแนกปัจจัยแปรผันซึ่งสิ่งเหล่านี้จะกำหนดทิศทาง ช่วยให้ผู้บริหารจับประเด็นปัญหาของการติดต่อสื่อสาร และช่วยป้องกันความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้น องค์ประกอบของการติดต่อสื่อสารจะมีผู้ส่งสารช่องทาง ข้อมูลผู้รับสารการตอบรับส่วนการติดต่อสื่อสารจะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข่าวสารมีความเข้าใจระหว่างผู้ปฎิบัติงานเพื่อการทำงานไปได้ด้วยดี ช่วยสร้างทัศนคติเกิดแรงจูงใจ
บทที่ 7 ภาวะผู้นำ
    ภาวะผู้นำ หมายถึงการเป็นผู้นำที่ใช้อิทธิพลในการดำเนินงานในความสัมพันธ์ต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในสถานการณ์ต่างๆเพื่อปฏิบัติการและอำนวยการ โดยใช้กระบวนการติดต่อซึ้งกันและกันผู้นำเกี่ยวข้องกับการอำนวยการจูงใจการริเริ่มกำหนดนโยบายวินิจฉัยสั่งการองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับภาวะผู้นำ มีผู้นำ ผู้ตาม สถานการณ์ ผู้นำกับผู้บริหารจะแตกต่างกันคือผู้นำก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ส่วนผู้บริหารเป็นผู้รักษาความมั่นคงในหน่วยงาน ผู้นำจะยกย่องเนื่องจากมีลักษณะเด่นเป็นพิเศษเหนือบุคคลอื่นจากผู้บริหารมีรูปแบบเป็นทางการ
บทที่ 8 การประสานงาน
    การประสานงาน คือการจัดระเบียบวิธีการทำงาน เพื่อให้งานและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆร่วมมือกันปฎิบัติงานเป็นน้ำหนึ่งเดี่ยวกัน เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และนโยบาย ความมุ่งหมายในการประสานช่วยให้คุณภาพและผลงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อจัดความซ้ำซ้อนกันของการทำงานโดยไม่จำเป็น และเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งกันระหว่างเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ภารกิจในการประสานงานที่ดี ควรทราบถึงภารกิจที่ดีในการประสานงานคือต้องทราบนโยบาย แผนงาน งานที่รับผิดชอบ และทรัพยากร ส่วนหลักการประสานงานควรจัดให้มีระบบในการสื่อสาร ความร่วมมือและการประสานงานและนโยบายที่ดีในการประสานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วควรจะมีโครงสร้างจัดเป็นระบบแบบแผน มีแผนภูมิแสดงสายการบังคับ มีการเขียนนโยบาย มีระบบเสนองาน มีเครื่องมือและระบบสื่อสารที่เพียงพอและเปิดโอกาสให้กับผู้เข้าร่วม การประสานงานที่ดีจะมีประโยชน์หลายอย่างคือช่วยลดการขัดแย้ง ลดปัญหาที่ซับซ้อน ทำให้เกิดเอกภาพในการทำงาน ช่วยให้ประหยัดเงิน เวลา
บทที่ 9 การตัดสินใจสั่งการหรือการวินิจฉัยสั่งการ
     การตัดสินใจคือการชั่งใจไตร่ตรองหาเหตุผลเพื่อให้การดำเนินงานไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ ส่วนการวินิจฉัยสั่งการคือการสั่งงานหรือการพิจารณาตกลงชี้ขาดจากทางเลือกที่มีอยู่มากกว่าหนึ่งทางขึ้นไป หลักการในการตัดสินใจหรือวินิจฉัยสั่งการ บางครั้งตัดสินใจถูกแต่การสั่งงานผิดพลาดอาจทำให้เกิดผลเสียหายแก่งาน  ลักษณะการวินิจฉัยสั่งการของผู้บริหารที่ดี จะต้องประกอบด้วยหลักเกณฑ์ดังนี้ ระยะเวลาที่เหมาะสม ความแน่นอน ความรู้ความสามารถของผู้บริหาร ประสบการณ์ในการทำงาน ทัศนคติ บุคลิกภาพที่มีอิทธิพล ความลำเอียงส่วนบุคคล ความโดดเดี่ยว ประสบการณ์ การรู้โดยความรู้สึก และการแสวงหาคำแนะนำ
บทที่ 10 ภารกิจของผู้บิหารโรงเรียน
   ผู้บริหารโรงเรียน ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายงานให้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาหรืออำนวยการต่างๆ  จะมีหลายด้าน ดังนี้ 
 1.การบริหารงานวิชาการ จะเป็นหัวใจของการบริหารในโรงเรียน ลักษณะและความสำคัญของงานวิชาการ จึงถือว่างานวิชาการท้าทายผู้บริหารการศึกษา งานวิชาการจะเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน และผู้บริหารจะต้องรับรู้ รับผิดชอบ ควบคุมดูแลในการดำเนินการวางแผน 
2.การบริหารบุคคล คือการจัดงานเกี่ยวกับคนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมให้กำลังใจผู้ปฎิบัติให้ทำงานอย่างมีปะสิทธิภาพ ความสำคัญของการบริหารบุคคล คือ คนเป็นผู้บันดาลให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น วัตถุประสงค์ เพื่อสรรหาและเลือกสรรคนดี มีความรู้ความสามารถมาทำงานให้เกิดผลสูงสุดอยู่กับองศ์การนานๆ 
3.การบริการธุรการในโรงเรียน คืองานธุรการเป็นเรื่องของการให้บริการแก่หน่วยงานต่างๆของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ส่งผลให้การเรียนการสอนเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ความสำคัญจะเป็นเสมือนน้ำมันหล่อลื่นให้เครื่องจักรทำงานได้ดีและเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสามารถของผู้บริหารงานหน้าที่ของผู้บริหารงานธุรการคือจะเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายงานธุรการติดตามและวางแผนการปฎิบัติงานจัดระบบงาน 
4.การบริหารงานนักเรียน เป็นการบริการงานเกี่ยวกับนักเรียนในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนในห้องเรียนหลักในการจัดกิจกรรมต้องให้นักเรียนมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเสมอภาคต้องอยู่ในความรับผิดชอบของสถานศึกษาต้องปลูกฝังความคิด 
5.การบริหารอาคารสถานที่และบริการด้านอื่นๆ คือการรู้จักจัดหารู้จักใช้อาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุดและให้คงสภาพดีสนองความต้องการได้อย่างเพียงพอ